รายละเอียดการตกแต่งรถเบื้องต้น เพื่อรถคันโปรดของคุณ สำหรับมือใหม่และคอแต่งรถ
โพสต์เมื่อ 01 สิงหาคม 2557
139
SHARES
|
ต่อยอดจากงาน Option Fest ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวาน วันที่ 31 กค. - สค. นี้ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ผู้ที่รักชื่นชอบการตกแต่งเป็นชีวิตจิตใจไม่ควรพลาด เพราะมีการ Sales ของลดราคากันแบบกระหน่ำ
ในวันนี้ทางเรา จะมาพูดถึงรายละเอียดในการตกแต่งรถเบื้องต้น สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่อยากจะเริ่มต้นหัดแต่งรถ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน กันดีใช้งบสักเท่าไร วันนี้ลองมาดูรายละเอียดกันคร่าวๆ ได้เลย
1. เริ่มการตกแต่งจาก body part ภายนอก ในส่วนนี้นั้น อาจจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่ การเปลี่ยนล้อแม็ก ซึ่งก็มีหลากหลายราคา ทั้งงานไทย จีน ไต้หวัน งานแท้ไม่ว่าจะทางฝั่งญี่ปุ่น หรือ ยุโรป ซึ่งราคานั้นนอกจากคุณภาพงานแล้วก็ยังขึ้นกับขนาดของวงล้อด้วย ซึ่งราคาอาจเริ่มสตาร์ทที่ไม่กี่พันบาทจนไปถึง หลักหมื่นกันเลยทีเดียว แล้วถ้าหากคุณเปลี่ยนไซส์ล้อ ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางด้วยเช่นกัน ซึ่งราคา ก็จะอยู่ตั้งแต่พันต้นๆ ไปจนถึงพันปลายๆ เลยทีเดียว
นอกจากนั้น ก็อาจจะเป็นชุด Body Part รอบคัน ซึ่งคุณภาพงานก็มีหลากหลายทั้ง ไฟเบอร์ พลาสติก ABS PP (ซึ่งจะมีความเหนียวทนทานมากกว่า) และราคาก็จะแตกต่างตามคุณภาพงานด้วย รวมไปถึง สปอยเลอร์ทรงต่างๆ ที่มีให้เลือกมายมาย ทั้งทรงเดิมติดรถ, Duck tail, GT wing สำหรับวัสดุ ก็มีหลากหลายเช่นเดียวกับ Body Part ทั้งไฟเบอร์, พลาสติก ชนิดต่างๆ จนงานสวย อย่าง คาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากในส่วนของ Part แต่งแล้ว หลังๆ ก็มีนิยมเปลี่ยนโคมไฟหน้ากัน เป็นทั้งแบบโปรเจ็คเตอร์ หรือแบบที่มีไฟ LED DRL ในตัว หรือ จะติดตั้งไฟ DRL แยก โดยการเจาะหาตำแหน่งยึดก็สามารถทำได้
2. สำหรับภายใน ในการตกแต่งนั้น ก็มีตั้งแต่ของกระจุกกระจิกเล็กๆ น้อย ซึ่งเราต้องอาจขอข้ามไป มาพูดถึงการตกแต่งใหญ่ๆ หลัก เริ่มที่เบาะ หลายคนชอบสไตล์รถซิ่ง ก็มักจะเปลี่ยนเบาะเป็นทรง Semi-Bucket Seat (เบาะสไตล์รถสปอร์ตที่สามารถปรับเอนหลังได้) เบาะพวกนี้จะช่วยโอบไหล่ให้กระชับขึ้นกว่าเบาะเดิม (สำหรับรถที่ให้เบาะเดิมที่ไม่ใช่ทรงสปอร์ต) หรือ จะเป็น Full Bucket Seat (เบาะรถแข่งหลังแข็ง) เบาะพวกนี้จะล๊อกลำตัวเอาไว้อยู่ภายในเบาะ และการเปลี่ยนเบาะพวกนี้ อาจจะต้องเปลี่ยนสายรัด Belt ด้วย
ซึ่งสนนราคาการเปลียนก็มีตั้งแต่ หลักไม่กี่พันบาท ไปจนถึงเบาะแท้ราคาหลายหมื่น ซึ่งในรถแต่ละรุ่นนั้นอาจจะต้องมีการแปลงขายึดเบาะอีกด้วยในการ
นอกจากเบาะแล้ว อีกสิ่งที่สาวกชอบเปลี่ยนกันก็ได้แก่ พวงมาลัย ทรงต่างๆ ที่จะช่วยให้รถคุณดูสวยงาม และให้ฟีลลิ่งรถแข่งที่มากขึ้น แต่ทว่าอย่าลืม ถ้าหากคุณเปลี่ยนพวงมาลัยพวกนี้ คุณก็จะไม่สามารถใช้งานปุ่ม Multifunction บนพวงมาลัยเดิมติดรถได้ (หากมี) อีกทั้งต้องแลกกับ Airbag ที่หายไปจากพวงมาลัยเดิมติดรถอีกด้วย ซึ่งราคาของพวงมาลัยนั้น ก็มีตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อย จนถึงแตะหลักหมื่นเลยทีเดียว สำหรับพวงมาลัยแท้งามๆ
ต่อจากพวงมาลัย สิ่งที่จะช่วยเพิ่มความซิ่งให้แก่รถ ก็ได้แก่ บรรดา เกจ์วัด ทั้งหลาย ซึ่งหลายคนมักจะติดไปเมื่อให้ได้ฟีลรถซิ่ง ซึ่งในความเป็นจริง กับรถยนต์เดิมๆ แล้วอาจไม่มีความจำเป็นสักเท่าใด แต่ถ้าเป็นรถยนต์เครื่องเทอร์โบ แล้วล่ะก็ เกจ์อย่าง วัดบูสต์ ก็ น่าติดไม่น้อย รวมถึงบรรดา Turbo Timer ที่ช่วยหน่วงเวลาในการดับเครื่องยนต์ลงด้วย สำหรับสนนราคาเกจ์วัด มีเริ่มถูกๆ ที่หลักร้อย ไม่รวมติดตั้งไปจนถึงหลายพันเช่นเดียวกัน
3. สำหรับการโมดิฟายด์ ให้รถมีสมรรถนะที่ดีขึ้นนี้ มีวิธีที่หลากหลาย และจุกจิกมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วย
เริ่มง่ายๆ ที่การแฟลชกล่องเดิม หรือ ที่เรียกกันว่า จูนกล่อง ECU ใหม่ เพื่อให้รถยนต์ตอบสนองได้อย่างกระฉับกระเฉงทันใจเพิ่มขึ้น ซึ่งในบางรายเคลมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ดียิ่งขึ้นด้วย ในส่วนนี้ อาจจะต้องอาศัยช่างจูนที่มีฝีมือกันเสียหน่อย ซึ่งราคาก็ อาจจะขึ้นกับระดับของรุ่นรถยนต์ และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งมักมีราคากันตั้งแต่ หลักต้นๆ ไปจนถึงหลายพันเลยทีเดียว
ถัดมาหลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนกรองอากาศ จากกรองเดิมที่เป็นแบบกระดาษติดรถ อาจเปลี่ยนเป็นไส้กรองแบรนด์ยอดนิยมอย่าง K&N หรือ จะจัดเต็มเป็นกรองเปลือยดอกเห็ด นอกจากการเปลี่ยนกรองแล้ว สิ่งที่มักต้องทำและตามมาด้วยก็คือ ระบบระบายไอเสีย ซึ่งหลายคน อาจเปลี่ยนแค่ท่อนปลาย ไม่ว่าจะเอาแค่เสียง หรือสวยงาม จนมาถึงท่อนพักกลาง และ เฮดเดอร์ ที่ชอบเลือกแบบสูตร 4-2-1 ซึ่งการทำระบบไอเสียทั้งระบบตั้งแต่ เฮดเดอร์ยันปลายท่อ ก็อาจมีสนนราคาแตะหลักหมื่น ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดความจุของเครื่องยนต์รุ่นรถอีกด้วยเช่นกัน
ถ้าอยากแรงแบบทีเดียวจบ พร้อมทนรับความจุกจิกที่อาจตามมาได้ หลายคนเลือกหัวใจผูกโบ (ติดตั้งเทอร์โบ) ซึ่งในส่วนนี้ อาจจะต้องใช้งบค่อนข้างสูง ครึ่งแสน ไปจนถึงหลักแสน ขึ้นกับจำนวนของที่ต้องการว่าจะเล่นของแบรนด์ คุณภาพ งบระดับนี้แลกกับการได้ม้าเพิ่มสัก 50 ตัว หรือมากกว่านั้น แต่สิ่งที่ต้องทำไม่น้อยเลย คือ เดินระบบทางเดินไอเสียใหม่ทั้งเส้น เลือกขนาดของเทอร์โบ, Blow off valave, อินเตอร์คูลเลอร์ รวมไปถึงการถ่ายเปลี่ยนของเหลวใหม่
ซึ่งในช้อยส์ สุดท้ายของการเพิ่มความแรงนี้ อาจจะต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน ถึงข้อดีที่จะได้รับ กับข้อเสียที่จะตามมา ทั้งความจุกจิกในการดูแลรักษา, อัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้น, ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก, ระบบเกียร์ ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ออโต้จำพวก CVT แล้วล่ะก็ ต้องไม่ใช้บูสต์ที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้เกียร์เสียหาย เป็นต้น
นอกจากจะอัพเกรดความแรงแล้ว สิ่งที่ควรต้องอัพเกรดตามด้วย นั่นก็ คือ ระบบช่วงล่าง และระบบเบรก เพื่อให้รองรับกับพละกำลังของรถที่มีมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการควบคุมรถ
ซึ่งในส่วนนี้ อาจจะเริ่มตั้งแต่ การเปลี่ยนสปริงโหลด เพียงไม่กี่พันบาท ไปจนถึงเปลี่ยนโช้คอัพแบรนด์ดัง ในราคาหลักหมื่น และ ระบบเบรก ก็เช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่การเปลียนใส่จานขยาย ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่พัน จนไปถึงการใส่เบรกคาลิปเปอร์แต่ง ไม่ว่าจะแปลงจากรถรุ่นอื่นมามือสอง หรือจะตรงรุ่นจากแบรนด์ดัง ในราคาหลักหมื่น ถึงหลายหมื่นก็ตาม แต่ถ้าต้องการเพียงแค่สวยก็ใส่คาลิปเปอร์หลอกแบบฝาครอบหลักร้อยบาท เอาก็เพียงพอ
สุดท้ายเราหวังว่าทุกท่าน จะแต่งรถโมดิฟายด์รถสุดที่รักของตัวเองกันด้วยความสนุกสนาน จนอย่าลืมเพลินถึงขนาดต้องกินมาม่า ประทังชีวิต เพื่อแลกกับของแต่งแต่ละชิ้นก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น